ข่าวรับสมัครสอบ พลอาสมัครเป็นนายทหารประทวน << คลิ๊ก>>

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2561

ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ.ศ.๒๕๕๕

(สำเนา)
ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม
ว่าด้วยสารวัตรทหาร
..๒๕๕๕
_____________________

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ..๒๕๕๕
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
.๑ ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ..๒๕๑๙
.๒ ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร (ฉบับที่ ๒..๒๕๒๑
.๓ ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร (ฉบับที่ ๓..๒๕๓๙
บรรดาข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งอื่นใดในส่วนที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อบังคับนี้ หรือซึ่งขัดหรือ
แย้งกับข้อบังคับนี้ ให้ใช้ข้อบังคับนี้แทน
ข้อ ๔ ในข้อบังคับนี้
.๑ คำว่า ทหารสารวัตร” หมายถึง ทหารเหล่าทหารสารวัตรที่บรรจุในอัตรากำลังของหน่วยต่าง ๆ
.๒ คำว่า สารวัตรทหาร” หมายถึง ทหารสารวัตรหรือทหารเหล่าอื่นหรือพรรคอื่น
ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สารวัตรทหารตามคำสั่งของผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหาร
.๓ คำว่า ผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารหมายถึง ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารที่มีทหารสารวัตรอยู่ในบังคับบัญชา หรือผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดสารวัตรทหารตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศกำหนด ในกรณีไม่มีทหารสารวัตรอยู่ในบังคับบัญชา เป็นผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารได้ภายในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ หรือตามอำนาจที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือแบบธรรมเนียมของทหาร
ข้อ ๕ สารวัตรทหารให้จัดจากทหารสารวัตร ในกรณีไม่มีทหารสารวัตรบรรจุอยู่ในอัตรากำลังของหน่วยหรือในเหล่าทัพใด ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดสารวัตรทหารตามที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ กำหนด จัดทหารเหล่าอื่นหรือพรรคอื่นเป็นสารวัตรทหารได้
ข้อ ๖ การแต่งกายของสารวัตรทหารในขณะปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับและแบบธรรมเนียมของทหารที่ว่าด้วยการนั้น
ข้อ ๗ เพื่อให้การรักษาระเบียบวินัยดำเนินไปโดยเคร่งครัดรวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีให้สารวัตรทหารมีหน้าที่ดังนี้
.๑ สอดส่องตรวจตราให้ทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมอยู่ในระเบียบวินัยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี
.๒ ว่ากล่าวตักเตือนและจับกุมทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมที่กระทำความผิด
.๓ สืบสวนสอบสวนคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหาร
.๔ ควบคุมการจราจรในกิจการทหาร
.๕ รักษาความปลอดภัยทางวัตถุและอารักขาบุคคลสำคัญ
.๖ ปฏิบัติการเกี่ยวกับการเรือนจำทหาร และเชลยศึก ทหารผลัดหน่วย พลเรือน
ผู้ถูกกักกันในยามสงคราม ตามที่กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
.๗ กำหนดมาตรการป้องกันอาชญากรรมในวงการทหาร
.๘ หน้าที่อื่นตามที่กระทรวงกลาโหมหรือผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารจะกำหนด
ข้อ ๘ สารวัตรทหารมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารได้ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหาร
ข้อ ๙ สารวัตรทหารมีอำนาจที่จะปฏิบัติต่อทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมผู้ไม่อยู่ในระเบียบวินัย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีซึ่งอยู่ภายนอกที่ตั้งหน่วยทหารหรือสถานที่ทำงานตามควรแก่กรณีดังนี้
.๑ ว่ากล่าวตักเตือน
.๒ จับกุม
.๓ ตรวจค้นผู้ถูกจับกุมเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีสิ่งของที่ผิดกฎหมายหรือเพื่อใช้ในการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถ้าผู้ถูกจับกุมเป็นหญิงให้สารวัตรทหารหญิงหรือหญิงอื่นเป็นผู้ตรวจค้น
.๔ ยึดสิ่งของตามข้อ ๘.๓ หรือ สิ่งของที่อาจเป็นภัยอันตรายหรือที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการกระทำผิดนั้นได้
         ข้อ ๑๐ ในการจับกุม สารวัตรทหารต้องแจ้งเหตุที่จะจับกุมให้ผู้จะต้องถูกจับกุมทราบ การจับกุมให้กระทำโดยละม่อม ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เครื่องพันธนาการหรือใช้อาวุธเพื่อป้องกันตนก็ให้กระทำได้แต่ต้องไม่เกินสมควรแก่เหตุ
         ข้อ ๑๑ เมื่อสารวัตรทหารจับกุมผู้ใดแล้ว ให้ปฏิบัติดังนี้
         ๑๑.๑ รายงานให้ผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารทราบโดยเร็ว
         ๑๑.๒ ผู้ถูกจับกุมสังกัดอยู่ในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของหน่วยสารวัตรทหารที่จับกุมให้นำตัวผู้ถูกจับกุมส่งหน่วยทหารต้นสังกัดของผู้นั้น หรือรีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกจับกุมทราบโดยเร็วเพื่อรับตัวไป ในกรณีนี้ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายไปรับตัวผู้ถูกจับกุมนั้นโดยเร็ว และต้องไม่เกินกว่า ๒๔ ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง
         ๑๑.๓ ผู้ถูกจับกุมสังกัดอยู่ในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของหน่วยสารวัตรทหารที่จับกุม ให้รีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกจับกุมทราบโดยเร็วเพื่อรับตัวไป ในกรณีนี้ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายไปรับตัวผู้ถูกจับกุมนั้นโดยเร็ว และต้องไม่เกินกว่า ๗ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
         ๑๑.๔ ในระหว่างที่ยังไม่มีการรับตัวให้สารวัตรทหารควบคุมหรือจัดการเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกจับกุมหลบหนี
          ข้อ ๑๒ ในเขตพื้นที่ใดมีหน่วยทหารต่างเหล่าทัพตั้งอยู่เมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารในเขตพื้นที่นั้นอาจจัดสารวัตรทหารร่วมขึ้นปฏิบัติภารกิจในบังคับบัญชาของนายทหารเหล่าทัพใดก็ได้ทั้งนี้ให้ทำความตกลงกันเป็นหนังสือ
          ข้อ ๑๓ สารวัตรทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการใด ๆ ต่อบุคคลอื่นนอกจากทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมซึ่งกระทำความผิด เว้นแต่จะได้รับการร้องขอจากพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจให้ร่วมมือด้วยในเหตุผลอันสมควร หรือเป็นการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
         ข้อ ๑๔ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ออกระเบียบปลีกย่อยเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ได้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มีนาคม พ..๒๕๕๕
(ลงชื่อพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต
     ( สุกำพล สุวรรณทัต )
 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

หมายเหตุ:- หลักการและเหตุผลในการประกาศใช้ระเบียบฉบับนี้ คือ ปรับปรุงข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ..๒๕๑๙ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ..๒๕๕๑ มาตรา ๑๐ (และมาตรา ๑๗ (ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงชื่อส่วนราชการจากเดิม กองบัญชาการทหารสูงสุด” เป็น กองบัญชาการกองทัพไทย” และตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม (เฉพาะลับ ที่ ๓๓/๕๓ ลงวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ เรื่อง แก้อัตราเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม (ส่วนกลางและคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม(เฉพาะลับ ที่ ๔๓/๕๓ ลงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์๒๕๕๓ เรื่อง แก้อัตราเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม (ส่วนกลาง)ที่กำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมมีอำนาจในการจัดและการสั่งใช้สารวัตรทหาร รวมทั้งสามารถออกระเบียบปลีกย่อย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามข้อบังคับและเป็นแนวทางเดียวกัน จึงจำเป็นต้องออกข้อบังคับนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น